วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556

ชาวนากับเศรษฐีไม้เท้าทองคำ! ...บทที่ 3


บทที่ 3 เคล็ดลับมหาเศรษฐี

ที่หน้าคฤหาสสวยหรู ใหญ่โตมโหราฬ
หนุ่มน้อยชาวนาถูกกันอยู่ที่หน้าป้อมยาม
รปภ.เองก็คิดหนัก เมื่อชาวนาแจ้งความประสงค์ในการมาครั้งนี้
เพราะสารรูปของคนที่มาขอพบเศรษฐีไม้เท้าทองคำนั้น
ดูไม่ได้เอาเลยจริงๆ...
อย่าว่าแต่จะให้เข้าไปพบท่านเศรษฐีเลย
จะโทรเข้าไปบอกเขาก็ยังไม่กล้าด้วยซ้ำ...
กลัวโดนไล่ออกจากงาน โทษฐานเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องรายงานเข้าไป...

กรี๊งงงงง.... กริ๊งงงงงงง
เสียงโทรศัพท์ในป้อมยามดังขึ้น
รปภ.รีบเข้าไปรับสายอย่างรวดเร็ว
คนสนิทของท่านเศรษฐีโทรมาบอก รปภ. ว่า จะมีแขกมาหาท่านเศรษฐี
ให้อนุญาตเขา เข้ามาได้...

รปภ.วางหูโทรศัพท์เสร็จ ก็ออกมายืนงงๆ อยู่ด้านหน้า
พร้อมกับจ้องมองดูหนุ่มน้อยชาวนาสักครู่...
"
ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าคุณเป็นคนที่ท่านเศรษฐีรอพบอยู่
เห็นแต่งตัวมอซอแบบนี้... ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ
งั้น เชิญเข้าไปได้เลยครับ..."

"
คุณ วรเทพ หรือเปล่าครับ..."
คนสนิทของท่านเศรษฐี มองมาทางหนุ่มน้อยชาวนาพร้อมกับถามคำถามขึ้น...

"
เปล่าครับ..." หนุ่มน้อยชาวนาตอบ

"
อ้าว... แล้วนี่ใครปล่อยให้คุณเข้ามาล่ะนี่"

"
ก็... คนที่อยู่หน้าประตู บอกผมว่า ท่านเศรษฐีรอพบผมอยู่น่ะครับ
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าท่านรู้ได้อย่างไรว่าผมจะมาขอพบท่าน"

"
ท่านรอพบคุณ วรเทพ อยู่ ไม่ได้รอพบคุณ"

"
ถ้าอย่างนั้น ผมขอพบท่านเศรษฐีหน่อยจะได้ไหมครับ"

"
ไม่ได้หรอก... ถ้าไม่ได้นัดไว้ ก็ให้พบไม่ได้"
คนสนิทยืนยันแข็งขันที่จะไม่ให้เข้าพบ

"
ขอให้ผมได้พบท่านเศรษฐีหน่อยเถอะครับ... นะครับ"
หนุ่มน้อยชาวนาพยายามวิงวอน

"
ไม่ได้จริงๆ ครับ... ผมทำตามหน้าที่น่ะครับ
ถ้าไม่ได้นัดไว้ ผมให้เข้าพบท่านไม่ได้จริงๆ..."
คนสนิทยังคงยืนกรานเสียงแข็ง

"
มีอะไรกันเหรอ..." ชายสูงอายุ ท่าทางภูมิฐานเอ่ยขึ้น

คนสนิทท่านเศรษฐี ท่าทีเปลี่ยนไปเป็นนอบน้อม เอ่ยขึ้นว่า

"
ผู้ชายคนนี้ เขาพยายามจะขอเข้าพบท่านให้ได้น่ะครับ
ผมเห็นว่าไม่ได้นัดท่านไว้ ก็เลยกำลังจะให้กลับออกไปครับ"
คนสนิทรีบเดินเข้ามาหาหนุ่มน้อยชาวนาเพื่อจะรีบพาออกไป

"
อืมมมม.. เดี๋ยวก่อน..." ท่านเศรษฐีเอ่ยขึ้น
"
เธอเป็นใคร มาจากไหนล่ะ พ่อหนุ่ม"
ท่าทางท่านเศรษฐีเป็นคนใจดีกว่าที่คิดซะอีก

ชายหนุ่มรีบเล่าเรื่องทั้งหมดให้เศรษฐีฟังทันที

.................... ......................... ...............................

"
เอางี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวเธอตามคนสนิทของฉัน
ไปรอฉันที่ห้องรับแขกทางโน้นก่อนนะ
อีกสักครู่ คุณ วรเทพ จะมาคุยธุระกับฉัน
เสร็จแล้ว ฉันจะไปคุยกับเธอ..."
กล่าวจบ ท่านเศรษฐีก็หันไปหาคนสนิท
และสั่งให้จัดเตรียมของว่างมาต้อนรับหนุ่มน้อยชาวนาด้วย

ที่ห้องรับแขก หลังจากหนุ่มน้อยชาวนานั่งรออยู่เกือบชั่วโมง
ท่านเศรษฐีก็เดินเข้ามาหาเขา

"
เธอกล้ามากเลยนะ ที่มาขอพบฉัน" เศรษฐีเอ่ยขึ้น หลังจากนั่งลงที่เก้าอี้แล้ว...

หนุ่มน้อยชาวนารู้สึกงงเล็กน้อย ทำไมกะอีแค่มาขอพบท่านเศรษฐี
มันต้องใช้ความกล้ากันเชียวหรือ... นี่แสดงว่า
ใครๆ ต่างก็ไม่กล้ามาขอพบท่านเศรษฐีแน่ๆ เลย
ดีนะที่เราไม่ได้คิดอะไรมาก อยากมาหาก็มาเลย

"
ขอบพระคุณท่าน ที่ให้โอกาสผมครับ"
ชายหนุ่มยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม

"
ไม่เป็นไร... เห็นครั้งแรก ฉันก็รู้สึกถูกชะตากับเธอแล้วล่ะ
ยิ่งพอได้ฟังเรื่องที่เธอเล่า ฉันก็ยิ่งสนใจ" เศรษฐีหยุดคิดนิดหนึ่ง

"
ที่เธอมาหาฉัน เธอคิดว่าจะมาทำไมเหรอ"

"
ผมนอนคิดมาทั้งคืนแล้ว ไม่มีทางไหนเลย
ที่ผมจะรวยขึ้นมาได้ ในระยะเวลาเพียงหนึ่งปี
นอกเสียจาก..." ชายหนุ่มนิ่งไป...

"
เธอคงกำลังหมายถึง นอกเสียจากมีเคล็ดลับ ใช่ไหมล่ะ"
เศรษฐีเอ่ยขึ้น

"
ใช่แล้วครับ... มันจะต้องมีเคล็ดลับอะไรแน่ๆ
ที่ทำให้คนบางคนรวยขึ้นมาได้ และผมก็ไม่มีเวลา
ที่จะค้นหามัน ผมเลยตั้งใจมาขอความกรุณาจากท่าน
เพื่อแนะนำเคล็ดลับนั้นให้ผมบ้างครับ..."

"5555...
 เธอนี่ใจถึงจริงๆเลย แบบนี้ฉันชอบ"
เศรษฐีหัวเราะออกมาดังๆ พร้อมกับเอ่ยชมเชยเขา

"
ดีเหมือนกัน ฉันจะได้มีโอกาสทดสอบเคล็ดลับของฉัน
ฉันใช้เวลาทั้งชีวิต เพื่อสร้างความร่ำรวย
จนฉันได้ล่วงรู้ความลับหลายข้อ
ที่ทำให้คนบางคนรวยได้และคนบางคนรวยไม่ได้"

ชายหนุ่มได้ฟังดังนั้น ถึงกับดีใจสุดขีด
เพียงเพราะความคิดแค่อยากมาพูดคุยกับท่านเศรษฐี
ไม่ได้คราดหวังอะไรมากนัก แต่สิ่งที่เขาได้จากการตัดสินใจครั้งนี้
กลับนำมาซึ่งสิ่งที่ยิ่งใหญ่มหาศาลกับชีวิตของเขานัก

"
เราจะมาดูกันซิว่า... ในเวลาหนึ่งปี เธอ กับ เคล็ดลับของฉัน จะไปได้ถึงไหนกัน"...
เศรษฐี เอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกตื่นเต้นปนความมั่นใจ

"
ท่านบอกมาได้เลยครับ... ผมยินดีทำตามทุกอย่าง"
ชายหนุ่มกล่าวตอบท่านเศรษฐี ด้วยหัวใจมุ่มมั่นเช่นกัน

"
เอาล่ะ..."ท่านเศรษฐีไม้เท้าทองคำเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ

"
ก่อนจะเริ่มลงมือทำอะไร
เราจะต้องมาเสียเวลาเรียนรู้อะไรบางอย่างกันก่อน...
ซึ่งมันเป็นความสำคัญต่อความสำเร็จของเธออย่างมากเลยทีเดียว..."

ชายหนุ่มตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อโดยไม่ได้เอ่ยปากอะไรออกมา

"
เธอรู้ไหมว่า ทำไมคนบางคนจึงรวย และทำไมคนอีกบางคนจึงไม่รวย" เศรษฐีถามขึ้น...

"
ตอนอยู่บ้านนอก ผมไม่รู้ครับ แต่หลังจากผมเข้าเมืองมา ผมรู้อยู่ข้อหนึ่งคือ"
ชายหนุ่มนึกไปถึงแม่ค้าขายของ เจ้าโยลูกจ้าง และหลวงพี่เปี๊ยกอยู่ในใจ...

"
เพราะเขาไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรดีกว่าที่เขาทำอยู่ครับ"
ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก

"
ถูกต้อง..."เศรษฐีตอบด้วยเสียงดังและมั่นคง
"
แต่สิ่งที่เธอตอบมานั้น มันมีสาเหตุ..." เศรษฐีหยุดเว้นช่วงนิดหนึ่ง ก่อนจะพูดต่อว่า
"
แล้วทำไมเธอจึงไม่ทำไร่ไถนาอยู่บ้านนอกล่ะ ตอนนี้"

"
ก็... ผมต้องรวยที่สุดในเมืองนี้ภายในหนึ่งปี นี่ครับ" ชายหนุ่มตอบ

"
แล้วเธอรู้หรือยังว่าจะทำอะไรจึงจะรวยได้" เศรษฐีถามขึ้นอีก

ชายหนุ่มนิ่งไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะตอบมาว่า
"
ยังเลยครับ..."

"
แล้วทำไมเธอจึงเลิกทำนาก่อนที่จะเจอวิธีที่รวยล่ะ
ทำไมจึงไม่ทำนาไปแล้วก็หาหนทางไปด้วย"

"
เพราะผมมีเวลาไม่มากนี่ครับ"

"
แสดงว่าคนอื่นๆ เขาคิดว่าเขามีเวลามากล่ะสิ
จึงค่อยๆ หาไปเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบ"

"
คงเป็นแบบนั้นมั้งครับ..." ชายหนุ่มตอบแบบไม่มั่นใจนัก

"
งั้นเธอจงตั้งใจฟังเรื่องที่ฉันกำลังจะบอกต่อไปนี้ให้ดีๆ.." เศรษฐีจ้องเข้าไปที่ดวงตาของชายหนุ่ม...

"
สิ่งแรกที่สุดเลยก็คือ... ความฝัน" เศรษฐีพูดอย่างตั้งใจ
"
ต่างคนก็ต่างมีความฝันของใครของมัน
บางคนก็อยากมีชีวิตที่พออยู่พอกินก็พอแล้ว
บางคนก็อยากใช้ชีวิตสงบสบาย ท่ามกลางสวน
บางคนก็ขอให้มีงานทำ มีครอบครัวที่อบอุ่น
และบางคนก็อยากร่ำรวยมหาศาล..."
เศรษฐีมองหน้าชายหนุ่ม ก่อนจะพูดต่อว่า

"
ไม่ว่าจะเป็นอะไร นั่นมันก็เป็นความฝันของใครของมัน
คนที่ไม่ได้ฝันว่าจะร่ำรวย เขาก็ไม่ได้เดินบนถนนที่จะนำพาให้เขาร่ำรวย...
แต่พวกเขาก็ยังเดินอยู่บนเส้นทางของพวกเขา
รวมทั้งเดินไปด้วยความสุขใจที่ ความฝันเป็นจริง"

ชายหนุ่มยังคงตั้งใจฟังอย่างใจจดจ่อเช่นเดิม

"
ความสุขที่เกิดจากความรู้จักพอของพวกเขา
เป็นความสุขที่น่าอิจฉา ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยกาย
แต่จิตใจก็สบาย แต่ก็จะมีบางคนที่อยู่อย่างพอเพียงไม่เป็น
ไม่รู้จักประมาณตนเอง ชีวิตก็จะเดือดร้อน
หาเงินมาได้ก็เป็นค่าผ่อนโน่นผ่อนนี่ ค่าดอกเบี้ยค่าอะไรต่อมิอะไร
ทั้งๆที่วัตถุนิยมเหล่านั้น มันไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นในการยังชีพเลย
แต่มันจำเป็นสำหรับหน้าตา... แล้วก็พากันนำเงินที่จะได้ในอนาคต
เอามาใช้ในปัจจุบัน ถึงแม้จะต้องเสียดอกเบี้ยก็ยอม
เขาจะมีความสุขกว่านี้ หากมีสิ่งเหล่านั้น ตามความเป็นจริง
ตามการประมาณตนเองว่าตอนนี้เขาควรจะมีอะไรได้บ้างแล้ว"
เศรษฐีหยุดนิดหนึ่ง ก่อนจะพูดต่อไปว่า

"
เธอไม่จำเป็นต้องเชื่อฉันก็ได้นะ เพราะนี่มันเป็นความคิดของฉันเอง
ซึ่งมันอาจจะผิดก็ได้"

"
ผมอยากฟังต่อครับ" ชายหนุ่มพยักหน้ารับทราบ

"
หลายๆ คนจึงอยู่อย่างไม่มีความสุข ทั้งๆที่เขาสามารถมีความสุขได้..."
เศรษฐีพูดต่อ

"
เรามาดูอีกกลุ่มหนึ่งคือ
กลุ่มที่มีความฝันว่าอยากรวย
แต่ก็ไม่สามารถที่จะรวยได้...
หลายๆ คนในกลุ่มนี้ เกิดจากการวางแผนผิด
รู้ก็ทั้งรู้ว่า การจะรวยได้ จำเป็นจะต้องเอาเงินไปต่อเงิน
ลำพังเพียงแค่การใช้แรงกายแลกเงินตรามานั้น
มันไม่สามารถทำให้ร่ำรวยได้หรอก
ทุกคนเกิดมาก็มี 24 ชั่วโมงเท่ากันหมด
คนที่รวยได้ เขาไม่ได้มีเวลามากกว่าคนอื่นเลย
แต่เขาสามารถบริหารเงินและเวลาของเขาได้ดีกว่าคนอื่น"

"
แล้วทำไมคนที่ไม่รวย เขาจึงไม่ทำในแบบที่จะทำให้รวยล่ะครับ"
ชายหนุ่มสงสัย...

"
เขาไม่สามารถเอาชนะใจตัวเองได้
เขาไม่สามารถเอาชนะสิ่งที่มายั่วยวนเขาได้"
เศรษฐีตอบ

"
อะไรหรือครับ คือสิ่งที่มายั่วยวน" ชายหนุ่มถาม

"
ก็พวกวัตถุนิยมนั่นแหล่ะ
ทำงานหาเงินมาได้ เหลือจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว
มันเหลือพอที่จะผ่อนรถได้ เขาก็เอาไปผ่อนรถ
เอาไปผ่อนบ้าน บางคนก็ใช้จ่ายแบบสุรุ่ยสุร่ายก็มี"

ชายหนุ่มทำหน้างงนิดๆ

"
บางครั้งวางแผนผิด ไม่ได้เผื่อเหตุสุดวิสัยไว้
เมื่อถึงคราวเหตุสุดวิสัยขึ้นมา ก็ต้องสร้างหนี้สินเพิ่มขึ้นอีก
เวลาที่พอมีเหลือ ก็ต้องเอาไปทำงานหาเงินมาใช้หนี้
ในที่สุดก็จะติดกับดักอยู่ตรงนั้น
เงินที่หามาได้ก็หมดไปกับรายจ่ายที่ตนเองสร้างขึ้น
เวลาที่จะใช้หาเงินเพิ่มก็หมด เงินที่ควรจะนำมาต่อเงินก็หมด
และที่หมดไปเลยก็คือ โอกาสที่จะร่ำรวย"

"
เพราะจะไม่ทำงานก็ไม่ได้ เพราะต้องมีเงิน" ชายหนุ่มกล่าวเสริม

"
ใช่.. และที่สำคัญ ตกงานก็ไม่ได้
เพราะเอาเงินในอนาคตมาใช้ในปัจจุบันหมดแล้ว
คนเหล่านี้จึงกอดงานเขาไว้แน่น
หมดโอกาสที่จะไปทำอะไรได้อีก"
เศรษฐีหยุดจิบน้ำ แล้วก็พูดต่อว่า

"
มันก็แปลกดีนะ...
คนสมัยฉัน ส่วนใหญ่จะเก็บเงินที่ได้มาในวันนี้
เอาไว้ใช้ในอนาคต
แต่คนสมัยนี้ กลับเอาเงินที่จะได้ในอนาคต
เอามาใช้ในวันนี้... หลายๆ ชีวิต จึงเหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย
คนเหล่านี่น่าสงสารยิงกว่าคนกลุ่มแรกที่ฉันบอกอีก
เพราะในจิตใจลึกๆ ของพวกเขานั้น มีความฝันว่าอยากร่ำรวย
คิดดูสิว่าคนเหล่านี้จะทุกข์ใจขนาดไหน
อยากจะรวย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะติดอยู่ในกับดักเสียแล้ว"

"
ผมโชคดีจังที่สามารถตกงานได้... ไม่ต้องมีเงื่อนไขของหนี้สินมาบีบเร้า"
ชายหนุ่มนึกเปรียบเทียบกับตัวเขาเอง

"
ใช่... มันทำให้เธอยังมีโอกาสที่จะร่ำรวยอยู่"
เศรษฐีพูดสนับสนุนเขา

"
โอกาสก็ไม่มีเพราะเวลาหมดไปกับการใช้แรงงานแล้ว
แถมเงินที่จะเอาไปต่อเงินก็ไม่มีอีก..."
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น

"
ผมยังไม่เข้าใจเรื่อง เอาเงินไปต่อเงินครับ"
ชายหนุ่มเป็นฝ่ายถามขึ้นมา

"
เรื่องเอาเงินไปต่อเงิน เอาไว้ฉันจะอธิบายให้ฟังทีหลัง"
เศรษฐีหันไปพูดกับชายหนุ่ม

"
ที่ฉันเล่ามาทั้งหมด มันยังมีอีกหลายเรื่อง ที่เป็นกับดัก
ทำให้คนที่อยากรวย รวยไม่ได้ ฉันจึงอยากให้เธอเข้าใจ
เกี่ยวกับกับดักบนเส้นทางสู่ความร่ำรวย... แม้แต่
การพนัน สาวงาม หรือ ความสุขส่วนตัว
ก็เป็นตัวทำให้คนล้มเหลวมามากต่อมากนัก
เพราะ... นำเงินออกไปใช้นอกระบบกับเรื่องพวกนั้น"
เศรษฐีหยุดเพื่อมองดูว่า ชายหนุ่มตามเขาทันหรือไม่

"
ผมจะเชื่อท่านทุกอย่างเลยครับ ขอให้บอก ให้แนะนำผมได้ทุกเรื่องครับ"
ชายหนุ่มกล่าวกับเศรษฐีด้วยหัวใจมุ่งมั่นและทุ่มเท

"
เธอโชคดีที่ไม่ได้เรียนจบสูงๆ โชคดีที่เป็นคนจน"
เศรษฐีเอ่ยขึ้น

"
ทำไมถึงโชคดีล่ะครับ" ชายหนุ่มสงสัย

"
หลายๆ คนที่เรียนจบสูงๆ มา มักจะเป็นน้ำที่เต็มแก้ว
หลายๆ คนที่เกิดมารวย มักจะไม่ติดดิน
เรื่องหน้าตาในสังคม อีกอย่างที่เป็นอุปสรรค"
เศรษฐีอธิบาย

ชายหนุ่มพยักหน้า ทั้งๆที่ไม่เข้าใจความหมายสักนิด

"
เอาเป็นว่า เธอรู้แล้วว่า มีกับดักต่างๆ บนเส้นทางมากมาย
ที่จะคอยกันเธอไม่ให้ประสบความสำเร็จ ดังนั้น ให้เธอมีสติตลอดเวลา
ฉันจะให้แค่คำปรึกษาแก่เธอ อย่างเดียว
นอกนั้นเธอต้องทำด้วยตัวของเธอเอง..."
เศรษฐีมองเข้าไปที่ดวงตาชายหนุ่มแล้วพูดต่อ

"
ตอนนี้เธอมีเงินอยู่เท่าไรนะ"

"
สองบาทครับ" ชายหนุ่มตอบด้วยความภาคภูมิใจ
แต่เศรษฐีแอบยิ้มที่มุมปากด้วยความเอ็นดู

"
อืมมมม... เธอเริ่มต้นจากเงินสองบาทของเธอต่อไป
แต่ฉันจะแนะนำบางอย่างให้"

"
อะไรหรือครับ" ชายหนุ่มสงสัย

"
ในทุกวัน เธอต้องมีรายจ่ายประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร
ค่าข้าวของเครื่องใช้... เธอจงหาวิธีให้มีเงินมาจ่ายสิ่งเหล่านั้น
โดยที่เธอไม่ต้องทำอะไรให้ได้..."

"
มีเงินโดยไม่ต้องทำอะไร... มันจะเป็นไปได้อย่างไรครับ"

"
เริ่มต้นก็คงต้องทำอะไรๆ นั่นแหล่ะ แล้วเมื่อถึงเวลาหนึ่ง
ก็หยุดทำ แต่ยังได้เงินอยู่... ส่วนจะทำอย่างไรนั้น
เธอต้องมองหาวิธีเอาเอง... โอกาสมีเสมอในท้องถนน
เธอจงหาโอกาสนั้นให้เจอ..." เศรษฐีตอบคำถาม

"
อีกอย่าง... ฉันให้ที่พักเธอที่นี่ เพราะเราจะต้องคุยกันบ่อยๆ"
เศรษฐีตบไหล่ชายหนุ่มเบาๆ อย่างเอ็นดู 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น